รู้ใว้ใช่ว่า เกี่ยวกับความปลอดภัย...การใช้แท็บเล็ต
เกี่ยวกับความปลอดภัย
ข้อควรระวังในการใช้งานแท็บเล็ต เพื่อการใช้งานที่ปลอดภัย
***ขอให้ท่านได้อ่านและทำความเข้าใจในสิ่งที่แนะนำนี้ เพื่อความปลอดภัย และเพื่อการใช้เครื่องแท็บเล็ตอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ข้อควรระวัง
- ปิดอุปกรณ์ในบริเวณที่เสี่ยงต่อการระเบิดได้ง่าย
- ไม่ควรใช้เครื่องแท็บเล็ตในสถานที่ ที่กำลังเกิดไฟไหม้
- หลีกเลี่ยงการใช้แท็บเล็ตในสภาวะแวดล้อมที่เย็นจัด , ร้อนจัด, ชื้น หรือแห้ง
- หากมีการตกหล่นจะสร้างความเสียหายอย่างมากกับตัวเครื่องและหน้าจอ
- กรุณาไม่ปิดเครื่อง หรือปิด WIFI ในขณะที่ ฟอร์แมท , ดาวน์โหลด หรือ อัพโหลดข้อมูล เนื่องจากอาจทำให้โปรแกรมเกิดข้อผิดพลาดได้
- ควรทำการสำรองข้อมูลที่สำคัญของท่านไว้ในอุปกรณ์อื่นที่เหมาะสม
- ใช้โปรแกรมจัดการไฟล์ที่มากับตัวเครื่องเท่านั้นในขณะ คัดลอก ย้ายหรือลบไฟล์ข้อมูล ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับเครื่องแท็บเล็ต
- ห้ามใช้เครื่องแท็บเล็ตในขณะที่ขับขี่ยานพาหนะหรือเดินบนถนน เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
- กรุณาไม่ซ่อมหรือแกะตัวเครื่องด้วยตัวเอง หากพบปัญหาให้แจงศูนย์บริการ ควรรับบริการ ซ่อม แก้ไข หรือติดตั้งจากเจ้าหน้าที่ ที่มีความชำนาญผ่านการฝึกอบรม หรือได้รับรองจากบริษัทเท่านั้น
- เครื่องแท็บเล็ตไม่ใช่อุปกรณ์ที่กันน้ำได้ ควรเก็บไว้ในสถานที่แห้ง
- ไม่ควรเก็บเครื่องแท็บเล็ตไว้ในบริเวณที่ถูกแสงแดดโดยตรง หรือมีอุณหภูมิสูง หรือมีความชื้นสูง หรือมีฝุ่นละอองมาก
- ห้ามใช้สาร เช่น แอลกอฮอร์ ทินเนอร์ หรือเบนซิน ทำการเช็ดล้างเครื่อง
- ฟังก์ชั่นการใช้งานอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการปรับปรุง
- ไม่ควรปรับ หรือตั้งค่า วัน/เดือน/ปี/เวลา ย้อนหลังหรือก่อนหน้า เพราะจะทำให้ฟังก์ชั่น หรือแอพพลิเคชั่นทำงานไม่สมบูรณ์ เช่น การปรับปรุงหรืออัพเดท
ป้องกันการรับเสียงและหูของคุณเมื่อใช้งานหูฟัง
- การรับฟังเสียงที่ดังเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อการได้ยินของคุณ
- ควรลดระดับเสียงลงอยู่เสมอก่อนที่จะเสียบหูฟังให้แหล่งที่มาของเสียง และใช้การตั้งค่าระดับเสียงต่ำสุดเท่าที่จำเป็นในการรับฟังการสนทนาหรือเพลง
- ในสภาพอากาศแห้ง อาจเกิดไฟฟ้าสถิตขึ้นที่หูฟัง ให้หลีกเลี่ยงการใช้งานหูฟังในสภาพอากาศที่แห้งหรือใช้วัตถุที่เป็นโลหะเพื่อคายประจุไฟฟ้าสถิตก่อนเชื่อมต่อหูฟังเข้ากับอุปกรณ์
ใช้ความระมัดระวังขณะใช้อุปกรณ์ระหว่างเดินหรือเคลื่อนที่
- ไม่ควรใส่แท็บเล็ตไว้ที่กระเป๋าหลังหรือรอบเอวคุณอาจได้รับบาดเจ็บหรือทำให้อุปกรณ์เสียหายหากคุณล้มลง
- ห้ามโยน หรือทิ้งเครื่องหล่นลงพื้น หรือกระแทกเพราะอาจทำเครื่องแตกและแบตเตอรี่เสียหาย
***กรุณาชาร์ตแบตเตอรี่เมื่อ***
- ไอคอนแบตเตอรี่เตือนว่าแบตเตอรี่ต่ำ 15 % โดยประมาณ
- เครื่องแท็บเล็ตปิดตัวเองอัตโนมัติ และไม่สามารถเปิดได้อีกครั้งเมื่อกดปุ่มเปิดเครื่อง
- ไม่ตอบสนองการทำงานใดๆเมื่อกดปุ่มหรือสัมผัสบนหน้าจอ
ข้อสำคัญจำเป็นต้องอ่านในการใช้งานแบตเตอรี่ของเครื่องแท็บเล็ต
ข้อควรทราบ ในการใช้งานแบตเตอรี่ของเครื่องแท็บเล็ต ไม่ควรจะใช้งานแบตเตอรี่ของเครื่องแท็บเล็ต จนเหลือ 0 % เพราะแบตเตอรี่ภายในเครื่องอาจจะไม่สามารถ ชาร์ตไฟฟ้าเข้าได้หรือเกิดการเสื่อมและเสียได้เร็วขึ้น ระหว่าง การปฏิบัติหน้าที่ในการสำรวจ หรือการใช้งานที่บ้าน ไม่ควร เปิดเครื่องใช้งานในขณะที่ชาร์ตแบตเตอรี่ของเครื่องแท็บเล็ต ทั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ภายในเครื่องแท็บเล็ตแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องปกติของแบต Lithium ทั่วไป ซึ่งถ้าใช้จนไฟหมดเป็นเวลานานแบตเตอรี่จะเสีย ไม่สามารถชาร์ตไฟได้อีก
สรุปคำแนะนำสั้นๆ สำหรับแบตเตอรี่ Lithium ดังนี้
- พยายามหลีกเลี่ยงการใช้แบตเตอรี่จนหมดแล้วค่อยชาร์ต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด Discharge Rate ในอัตราที่สูง (ใช้ไฟเยอะในเวลาอันสั้น) ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว เช่น กรณีที่ต้องการใช้งานเครื่องหนักๆ ก็ควรใช้แค่ช่วงเวลาไม่นาน และไม่ควรใช้จนแบตหมด ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆให้หาโอกาสชาร์ตไฟเป็นระยะๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิด Discharge Rate ในอัตราที่สูงได้
และที่สำคัญที่สุดคือการชาร์ตบ่อยๆ จะช่วยป้องกันการลืมชาร์ตไฟ ซึ่งถ้าหากปล่อยให้แบต Lithium ไฟหมดเป็นเวลานานแบตจะเสีย ไม่สามารถชาร์ตไฟได้อีก - ระลึกไว้เสมอว่าแบตฯแบบ Lithium ความร้อนมีผลต่อการเสื่อมมากกว่ารูปแบบการชาร์ต ดังนั้นพยายามดูแลอย่าให้แบตฯร้อน จะได้ผลดีกว่ามัวกังวลเรื่องชาร์ตบ่อย ชาร์ตมาก ชาร์ตน้อย
- เก็บแบตเตอรี่ไว้ในที่เย็นๆ จะช่วยให้แบตเตอรี่เสื่อมช้าลง ไม่ควรเก็บเครื่องแท็บเล็ตไว้ในรถที่จอดตากแดด
- ถ้าจำเป็นจะต้องเก็บแบตไว้เป็นเวลานาน โดยไม่ได้ใช้งาน ให้ชาร์ตไฟไว้ที่ประมาณ 40% ของความจุ แล้วเก็บไว้ในที่เย็นๆ จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้
- ไม่ควรเก็บเครื่องแท็บเล็ตเป็นเวลานานโดยไม่ได้ชาร์ตไฟ ดังนั้นถ้าเก็บไว้นานโดยไม่ใช่มันก็จะเสื่อมไปเองได้
- ไม่ควรใช้งานเครื่องแท็บเล็ต ขณะที่ทำการชาร์ตแบตเตอรี่
วิธีการใช้งานเครื่องแท็บเล็ต
ในการใช้งานครั้งแรกให้ทำการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม หากไม่มีการใช้งานแท็บเล็ตเป็นเวลานาน จะทำให้ระยะในการชาร์จจนเต็มมากขึ้น (ประมาณ 8 ชั่วโมง) ไม่ควรใช้งานแบตเตอรี่จนหมด หรือใช้งานในขณะชาร์จ เพราะอาจเป็นผลให้จอ LCD หรือแบตเตอรี่เกิดการเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรทำการชาร์จทันที่ที่มีการเตือนแบตเตอรี่ต่ำ 5% เพื่อหลีกเลี่ยงการชาร์จไม่เข้า และต้องส่งมากระตุ้นแบตเตอรี่ที่ศูนย์บริการ
การใช้งานที่ผิดวิธีอาจทำให้เกิดอันตรายจากแบตเตอรี่ระเบิดหรือเกิดเพลิงไหม้ได้ ไม่ควรทำการถอดประกอบ แยกชิ้นส่วนแท็บเล็ตเอง ไม่ควรวางแท็บเล็ตไว้ในสถานที่ที่ร้อน หรือมีแดดจ้า เช่น วางไว้ในรถและปิดกระจก
ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ได้ทีมาพร้อมกับเครื่อง หรือ ชาร์จจากแหล่งให้กำเนิดไฟฟ้าที่มีขนาดไม่เหมาะสมตามที่แสดงบนอุปกรณ์ชาร์จ เนื่องจากอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร และอุปกรณ์เสียหายได้
หมายเหตุ
- เครื่องแท็บเล็ตใหม่อาจไม่มีแบตเตอรี่ หรือไม่ได้รับการชาร์จมาก่อนถึงมือลูกค้า
- การชารจ์แบตเตอรี่ควรทำการชาร์จในบริเวณที่มีอุณหภูมิ 5-40 องศา
- หากไม่มีการใช้งานแท็บเล็ตเป็นเวลานาน ควรทำการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มทุกๆ 2-3 เดือน
การแสดงผล ในขณะชาร์จ ที่หน้าจอแท็บเล็ตจะแสดงภาพเคลื่อนไหวการชาร์จของแบตเตอรี่ เมื่อชาร์จเต็มภาพจะหยุเคลื่อนไหว สามารถตรวจสอบสถานการณ์ชาร์จโดยกดปุ่มเปิด/ปิด เบาๆ 1 ครั้ง
วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
หากอุปกรณ์มีปัญหา ให้ทำการตรวจสอบรายละเอียดอาการเบื้องต้นจากตาราง หากได้พบหรือไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ให้ติดต่อศูนย์บริการเพื่อส่งเครื่องซ่อม
ปัญหา |
วิธีการแก้ปัญหา |
เปิดเครื่องแท็บเล็ตไม่ได้ |
- ตรวจให้แน่ใจว่าแท็บเล็ตมีแบตเตอรี่เพียงพอ หรือให้ทำการชาร์จเพื่อกระตุ้นแบตเตอรี่ 3-4 ชั่วโมง หากยังไม่สามารถเปิดได้ให้ชาร์จต่อ ถึง 8 ชั่วโมง |
ปุ่มไม่ทำงาน |
ปิดและเปิดเครื่องใหม่อีกครั้ง |
ส่งไฟล์ระหว่างเครื่องแท็บเล็ตกับคอมพิวเตอร์ไม่ได้ |
-ตรวจสอบให้มั่นใจว่าเปิดการใช้งานที่เก็บข้อมูลในเครื่องแท็บเล็ตแล้ว -ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องคอมพิวเตอร์รองรับการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ภายนอก -ตรวจสอบสาย USB ว่าเชื่อมต่อดีหรือไม่ หรือลองเปลี่ยนสาย -ตรวจสอบให้แน่ใจว่า การ์ดเมมโมรี่หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ยังมีพื้นทีว่างสำหรับการเคลื่อนย้ายข้อมูล |
ไม่มีเสียง |
-ตรวจสอบระดับเสียง -ตรวจสอบให้มันใจว่า หูฟังถูกเสียบกับเครื่องถูกต้องแล้ว |
คุณภาพเสียงไม่ดี |
-ทดสอบฟังไฟล์เดียวกันบนเครื่องคอมพิวเตอร์หากมีคุณภาพต่ำเช่นเดียวกันให้ทำการดาวน์โหลดใหม่ -ตรวจสอบ bit rate ของไฟล์ว่าต่ำเกินไปหรือไม่ ค่าที่แนะนำคือ 128 kbps สำหรับ MP3 และ 96 kbps สำหรับ WMA -พยายามให้มั่นใจว่า หูฟังถูกเสียบกับเครื่องอย่างถูกต้องแล้ว |
ผู้จัดทำ/รวบรวม : นายอภินันท์ ประวันไหว้ |